Credit: http://www.design2share.com/design2share-qa/2012/8/22/tips-for-haggling-and-navigating-local-flea-markets.html
ตลาดนัดเป็นแหล่งสำคัญของการค้นหาของเก่า บางทีเคยคิดว่า การเดินหาของเก่า ก็ให้ความรู้สึกเหมือนนักค้นหาหรือคนที่มีอาชีพหาของเก่าจากใต้สมุทร ที่ต้องดำลงไปในทะเลลึกในจุดที่มีเรือโบราณจมอยู่นับร้อยปี แต่แบบนั้นอาจยากกว่าตรงที่ต้องมีการศึกษาประวัติศาสตร์การเดินเรือในอดีต เพื่อรู้เส้นทางเรือโดยสารหรือเรือสินค้าในมหาสมุทร แต่คงใช้ความพยามยามและเงินลงทุนต่างกันมาก (อย่าซีเรียส เรายกมาเฉพาะความรู้สึกของเค้ากับของเราในช่วงของการค้นหาค่ะ) เราไม่มีทางคาดเดาได้ว่าจะได้พบกับอะไร แต่ทุกคนจะมีความรู้สึกเหมือนกันคือความตื่นเต้นและเร้าใจในระหว่างการค้นหา และหากเราได้เจอสิ่งที่ถูกใจอย่างไม่คาดฝันมันจะเป็นความสุข ความเปรมปรีด์และสมหวัง มันเหมือนเปิดกล่องของขวัญแล้วได้ของถูกใจอย่างที่สุด เป็นเซอร์ไพรส์ที่ทำให้เราอิ่มเอม และพบโดยบังเอิญว่าของชิ้นนั้น เป็นสิ่งที่เราอยากได้มาแสนนาน นี่คือการถ่ายทอดความรู้สึกของอีชั้นเอง ซึ่งอาจจะออกแนวหนังแฟนตาซีอลิซอินวันเดอร์แลนด์เกินไปซักหน่อย แต่คิดว่าหลายคนคงมีความรู้สึกใกล้เคียงกันบ้าง ไม่มากก็น้อย
ตลาดนัดของเก่า ที่อีชั้นรู้จัก ไปบ่อย เดินบ่อย ก็สนามหลวง 2 อันนี้พ่อค้าจะเห็นหน้าอีชั้นแทบทุกวันเสาร์ เพราะนอกจากของเก่าที่สนใจแล้ว ยังมีต้นไม้ที่เป็นเรื่องสนใจอีกเรื่องนึงของอีชั้น อาหารก็มี ไปที่นี่เลยได้ครบรส จึงไปบ่อยค่ะ ที่นี่ขายวันเสาร์ อาทิตย์ ร้านเริ่มเปิดกันสิบโมงไปจนถึงบ่าย ๆ เย็น ๆ ตลาดที่ไปบ่อยรองลงมาก็วัดสวนแก้วในโซนร้านขายของเก่า ร้านมีเยอะค่ะ แต่มีแค่ 2-3 ร้านที่เคยซื้อ มีของที่ถูกใจราคาไม่แพง ฐานะอย่างเราสามารถซื้อได้ แต่เวลาไปก็เดินตรวจทั่วตลาดแหละค่ะ ดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย ที่นี่น่าจะเปิดทุกวันมั้งคะ แต่คนจะเยอะเฉพาะเสาร์อาทิตย์ แต่ตลาดที่ชอบมากกกกก มีของหลากหลาย ของเก่า ๆ ลึก ๆ มีดีไซน์ ก็ต้อง ตลาดนัดรถไฟค่ะ แต่ที่นี่ คนซื้อต้องใจถึงค่ะ ราคาค่อนข้างสูง (ความคิดเห็นส่วนตัว) อาจเป็นเพราะกว่าจะมาถึงตลาดนี้ต้องผ่านการคัดสรรจากพ่อค้ามาหลายทอดแล้ว ออกแนวของเก่า Vintage High So สำหรับคนมีเงินที่ชอบของเก่า ที่เรียกว่า “รุ่นใหญ่”
ดังนั้นการมาที่นี่ของอีชั้น อาจเป็นแค่การมาเดินสำรวจหรือเที่ยวเล่นดูของเจ๋ง ๆ ซะมากกว่า การที่คิดว่าจะได้ครอบครองอาจเป็นเรื่องรอง ๆ เนื่องจากใจไม่ถึงพอ แต่ขอแนะนำค่ะ ตลาดนี้เป็นตลาดที่เดินสนุก มีของน่าสนใจ ใช้คำว่าอะไรดี มันเจ๋งอะค่ะ บางอย่างไม่คิดว่าจะได้เห็น ที่นี่ก็มีขาย ความจริงจะว่าไป ตลาดมันกว้างค่ะ ไอ้ที่บอกราคาแพงก็จะเป็นร้านใหญ่ ๆ อยู่ในอาคาร ซึ่งของเค้าก็สมควรแพงอยู่ เพราะหายากเป็นชิ้นใหญ่และไม่ธรรมดา ส่วนในโซนตลาดนัดก็มีราคาตั้งแต่หลักสิบหลักร้อยเป็นต้นไป ต้องไปโดนซักครั้งค่ะ อ้อ ! ลืมบอกไป ตลาดนี้ขายเฉพาะตอนเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
แต่ความใฝ่ฝันอันสูงสุดของคนเก็บของเก่าอย่างอีชั้น คืออยากไปเดินตลาดขายของเก่าในต่างประเทศ ซึ่งได้ยินมาว่าเป็นสวรรค์ของนักเก็บของเก่า เค้าเรียก “Flea Market” ฟังจากที่เค้าเล่ามา มันช่างเหมือนกับตลาดมหาสมบัติที่เต็มไปด้วยของเก่านานาชนิด ราคาแสนถูก มีให้เลือกหลากหลาย สภาพดี เค้าบอกว่าฝรั่งใช้ของแบบรักษา ดังนั้นของเก่าที่นำมาขายยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ฟังดูแล้วไปวันเสาร์นี้เลยดีมั้ย !?!
รูปด้านบนเป็น Flea Market ในต่างประเทศ เท่าที่ดูก็คล้ายบ้านเรา แต่ของเค้าน่าจะอากาศเย็นเดินสบาย ไม่ร้อนอบอ้าว และเท่าที่ search ใน google พบว่า Flea Market น่าจะมีอยู่ทุกประเทศในโลก จึงไม่น่าแปลกที่อีชั้นจะชอบและหลงใหลของเก่า style vintage เพราะทุกประเทศก็มีคนที่ชอบแบบนี้เช่นกัน จึงไม่น่าใช่อาการที่ต้องไปพบแพทย์แต่อย่างใด
ตลาดนัดของเก่าอีกหลายแห่งแฝงตัวอยู่บนเวปไซต์ค่ะ เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ความจริงหลายร้านในเวปก็มาจากตลาดนัดของเก่าที่เราไปเดิน ๆ นี่แหละค่ะ พ่อค้าหลายคนก็เคยซื้อของกันอยู่บ้าง รู้จักว่าร้านอยู่ที่ไหน การมี Internet มันก็ดีอย่างนี้เอง เป็นโลกไร้พรมแดนจริง ๆ นี่ละมั้งที่เค้าพูดถึงการไปถึงที่หมายโดยไม่ต้องเดินทาง อาจไม่ได้หมายถึงการใช้ประตูกาลเวลาของโดราเอมอนเพื่อไปถึงที่หมายในเวลาอันรวดเร็ว แต่หมายถึงว่าเราสามารถเลือกและตัดสินใจได้โดยไม่ต้องใช้เวลาในการเดินทาง Internet ทำให้เกิดการค้าเสรี ไร้ขอบเขตและไร้เวลาจริง ๆ ค่ะ เปิดโอกาสให้ผู้ขายในการนำเสนอและเข้าถึงลูกค้าได้สูงกว่าการนั่งขายอยู่หน้าร้านจริงเป็นอย่างมาก บางร้านอยู่ไกลถึงเชียงรายอีชั้นก็เคยไปชอปและซื้อของมาแล้วโดยไม่ต้องเดินทาง พูดแล้วอยากเปิดร้านบน Internet บ้างจัง ไม่ต้องจ้างพม่ามาเฝ้าหน้าร้าน เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (แข่งกับเซเว่น) ไม่เสี่ยงโดนปล้น ไม่มีค่าเช่า อืมมมม ไปหาอะไรมาขายมั่งดีกว่า...
ข้างล่างนี้เป็นรูปจากตลาดรถไฟค่ะ ขอบคุณเวปไซต์ตามที่เครดิตไว้ค่ะ