วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

ชอบวินเทจสไตร์ (Vintage Lover)



ชอบการตกแต่งบ้านสไตร์วินเทจ เอาของเก่าที่มี..ที่ซื้อมาแต่งมุมต่าง ๆ ในบ้าน จึงอยากให้ Blog นี้ เป็นพื้นที่ในการ Share ของรักหลายชิ้นใน Style Vintage  ที่ใช้เวลาเก็บสะสมมาซักสี่ห้าปีแล้ว  ความจริงจะเรียกว่าเก็บสะสมก็ไม่ตรงกับความรู้สึกนัก  เพราะไม่ได้ต้องการสะสม แต่ชอบที่จะนำของเก่าชิ้นที่ชอบมาตกแต่งบ้าน แรงบันดาลใจน่าจะเริ่มต้นมาจากกระเป๋าเดินทางใบเก่าที่เราค้นเจอในห้องของพ่อ ซึ่งมัน inspire มาก ๆ เมื่อแรกเห็น รู้สึกได้เลยว่าเราชอบและคิดถึงมันมาก ๆ ความทรงจำในวัยเด็กพรั่งพรูออกมาเหมือนได้เปิดกระเป๋าวิเศษ 



เมื่อรวมกับการได้เข้าไปท่อง web site การตกแต่งบ้านสไตร์วินเทจของต่างประเทศ  ยิ่งทำให้หลงใหล และอยากมีบ้านที่มีกลิ่นอายวินเทจแบบนั้นบ้าง

การเก็บสะสมของเก่าจึงเริ่มขึ้น ชิ้นแรกที่เริ่มซื้อเป็นพัดลมเหล็กขนาดประมาณ 12" ต่อมาก็เป็นวิทยุหลอด วิทยุ
Transistor  ไล่เรื่อยมาเป็นกระเป๋าเดินทางหนังสีน้ำตาล ไม้เทนนิสเก่า เหยือก กาน้ำเคลือบอีนาเมล รถสามล้อเด็ก ตู้ไม้ ล่าสุดที่แฟนบอกว่าท่าอาการจะหนัก คือไปซื้อถังไอติมโบราณสี Turquoise มา ตอนที่ถามราคาตั้งใจจะเอาเฉพาะถัง กะจะเอากระจกวางทำเป็นโต๊ะกลางเก๋ ๆ คุยไปคุยมา คนขายบอกให้เอาไปทั้งถังไม้และถังปั่นด้านใน ใช้เป็นพร๊อพสำหรับแต่งร้านกาแฟได้ ก็เลยเอามาทั้งหยั่งงั้น (แต่เราไม่มีร้านกาแฟ !)

ตอนนี้แทบจะเต็มบ้านแล้วค่ะ  เท่าที่สังเกตุดูตัวเอง
 อาการก็เข้าขั้นหยุดไม่ได้ เห็นของเก่าประเภทนี้ที่ไหน เป็นต้องเข้าไปคุยไปถาม (ราคา) รู้สึกชอบ สนใจ และหากราคาไม่แพงมากนัก ก็จะยอมหยิบเงินในกระเป๋าจ่ายออกไปซะทุกที  เวลาที่ไปชอปปิ้ง ไม่เคยคิดจะไปสยามพารากอนหรือเอสพลานาดเลย คิดอยากแต่จะไปสนามหลวง 2 ตลาดนัดรถไฟ วัดสวนแก้ว  เพราะเป็นแหล่งของเก่าราคาไม่แพง สนุกที่ได้ไปเห็น ถึงแม้หลายครั้งที่ไปเดินจะไม่ได้อะไรกลับมา (ถ้าได้ของกลับมาทุกครั้ง ท่าจะแย่) แต่ก็มีความสุขและตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นของแปลก ๆ ของบางอย่างเราลืมไปแล้วว่าเคยเห็นเคยใช้ พอมาวันนี้ เมื่อเวลาผ่านไป ได้กลับมาเห็นอีกครั้ง รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ได้จินตนาการถึงวันเวลาเก่า ๆ ผ่านข้าวของเครื่องใช้ เหมือนอดีตกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

เข้าตำรา กินของขม ชมของเก่า เล่าความหลัง ...สโลแกน..คนสูงอายุค่ะ

หมายเหตุ ภาพประกอบด้านบนมาจากเวปไซต์ต่างประเทศค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น